หลังจากผู้ประกอบการค้าปุ๋ยหลายรายต้องแบกรับต้นทุนราคาปุ๋ยที่ขาดทุนมานานหลายเดือน จนบางรายต้องยกเลิกการนำเข้า ทำให้ปุ๋ยในประเทศเกิดการขาดตลาด เนื่องจากสภาวะวิกฤตของโควิด-19 และสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ทำให้ประเทศไทยซึ่งนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ต้องมีการปรับราคาปุ๋ยภายในประเทศให้สูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาคการขนส่งต้องมีการปรับราคาขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งภาระต้นทุนทั้งหมดจะไปตกอยู่ที่เกษตรกร ทำให้เกษตรกรไม่สามารถผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพได้ และผลผลิตอาจจะลดน้อยลง จนส่งผลกระทบไปเป็นทอดๆจนถึงผู้บริโภคได้
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจที่ร้านพิบูลย์สินเกษตร ร้านจำหน่ายปุ๋ยเคมีการเกษตร เมล็ดพันธุ์พืช และอุปกรณ์การเกษตรต่างๆ ตั้งอยู่เลขที่ 237-239 ถนนวิจิตร 2 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร สอบถามนายเทพนรินทร์ รักษาพล เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาปุ๋ยในขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆมาตั้งแต่เดิม ขายกระสอบละ 500 บาท ขณะนี้ราคาขายอยู่ที่กระสอบละ 1,450 บาทแล้ว ซึ่งทางร้านยังไม่ได้ปรับราคาขึ้น ยังคงขายอยู่ในราคากระสอบละ 1,400 บาทจนกว่าปุ๋ยในสต๊อกจะหมด เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้แบกรับภาระต้นทุนที่สูงเกินไป แต่หากสั่งปุ๋ยล็อตใหม่เข้ามาก็คงจะต้องมีการปรับขึ้นเช่นเดียวกัน เมื่อราคาปุ๋ยสูงขึ้นเกษตรกรจึงซื้อปุ๋ยน้อยลงเนื่องจากไม่มีทุน และหาแนวทางในการลดต้นทุนโดยอาจจะใช้ปุ๋ยธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของทางร้านเอง การที่ราคาปุ๋ยขยับขึ้นไม่ได้ทำให้ขายดีขึ้น แต่กลับกันยอดขายปุ๋ยกลับลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็น ส่วนแนวโน้มราคาปุ๋ยต่อจากนี้คาดว่ายังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือปุ๋ยอาจจะขาดตลาดได้ ต้องรอดูจนกว่าสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะดีขึ้น