อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลส่งมอบโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 300 ไร่ ให้แก่ประชาชนตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล
ข่าวสังคม

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลส่งมอบโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 300 ไร่ ให้แก่ประชาชนตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล

 วันที่7 มิถุนายน 2565 ที่บ้านวังเพชรพัฒนา หมู่ที่ 11 ตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นประธานในพิธีส่งมอบ "โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 300 ไร่" ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยมีนายสมนึก จิรัฐจินดางกูร ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต7 (กำแพงเพชร), นายพรชัย น้อยสวรรค์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกำแพงเพชร,นายประวิทย์ ปะนะตัง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอ เมืองกำแพงเพชร,นายวินัย นนทคุณ นายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลนิคมทุ่งโพธิ์ทะเล พร้อม ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชนและเกษตรกรเข้าร่วมพิธีเปิด



 

ด้าน นายศักดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นที่เกษตรกรรม ที่ต้องอาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรจึงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนในแต่ละปี อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก ทำให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อนมีปริมาณน้ำน้อย ไม่เพียงพอต่อการประกอบอาชีพการเกษตร ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอน 




ทั้งนี้รัฐบาลได้มีนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำอย่างเป็นระบบทั่วประเทศ และเตรียมแหล่งน้ำต้นทุน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ ต้องการให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข น้ำกินน้ำใช้จะต้องไม่ขาดแคลน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จึงได้ดำเนิน โครงการพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นดังกล่าว 


สำหรับโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรแปลงใหญ่ พื้นที่ 300 ไร่เกิดจากการรวมกลุ่มของเกษตรกรขนาดใหญ่ จำนวน 26 ราย พื้นที่เกษตร 301 ไร่ จากการพัฒนาน้ำบาดาลสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 131,400 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เพื่อใช้น้ำบาดาลในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อสร้างความมั่นคงด้านแหล่งน้ำเพื่อการผลิตภาคการเกษตรให้มีน้ำใช้ ประกอบอาชีพตลอดทั้งปี แก้ไขปัญหาความยากจน ลดปัญหาด้านสังคม เพิ่มขีดความสามารถในการผลิต สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ยั่งยืน

แชร์หน้านี้